วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2552

โฉมใหม่..! Honda Civic Type R

Honda Civic Type R แตกไลน์เพื่อตลาดแต่ละกลุ่ม

จากแนวคิดรุ่นเดียวตัวถังเดียวสำหรับขายในญี่ปุ่นก่อนแพร่หลายออกไปนิยมในหมู่ลูกค้าฝั่งยุโรปในเวลาต่อมา ถึงตอนนี้เวอร์ชันไทป์ อาร์ของซีวิคเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ เมื่อรุ่นแฮทช์แบ็ก 3 ประตูไม่ใช่ตัวถังหลักของสายพันธุ์นี้อีกต่อไป แต่ถูกปรับบทบาทให้จำกัดตัวเองอยู่แค่ในยุโรป

และหลักฐานที่ยืนยันถึงเรื่องนี้คือ การที่ฮอนด้านำซีวิค ไทป์ อาร์ใหม่สำหรับตลาดญี่ปุ่นออกมา เปิดตัวที่สนามซึซึกะในระหว่างการแข่งขันเจแปนีส กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันที่ 6--8 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมา พร้อมกับตัวถังซีดาน 4 ประตูสีขาวและล้อขาวตามฟอร์แม็ทที่เป็นรูปแบบของเวอร์ชันไทป์ อาร์



4 ประตูเพื่อคนญี่ปุ่น

ก่อนการเปิดตัวครั้งนี้ มีเครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นกับอนาคตของซีวิค ไทป์ อาร์ในญี่ปุ่นว่าจะเป็นไปในทิศทางใด จะยังยึดรูปแบบเช่นเดิมเหมือนกับรุ่นแรก (EK9) และรุ่นที่ 2 (EP3) ซึ่งถูกพัฒนาบนพื้นฐานของตัวถังแฮทช์แบ็ก 3 ประตูต่อไป หรือว่าจะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพตลาดในปัจจุบัน ?

ข่าวลือที่ว่าฮอนด้าจะเปลี่ยนแปลงตัวถังสำหรับใช้ในการพัฒนาเวอร์ชันไทป์ อาร์ของซีวิคในญี่ปุ่นเริ่มเป็นรูปเป็นร่างหลังจากที่รุ่นปกติของซีวิค FD เปิดตัวออกมาได้ไม่นาน และสื่อมวลชนพร้อมใจกันนำเสนอข่าวว่าในรุ่นนี้จะเปลี่ยนมาใช้ตัวถัง 4 ประตูแทนที่ 3 ประตูด้วยเหตุผลที่ว่าตลาดรถยนต์แฮทช์แบ็ก 3 ประตู และคูเป้ขนาดกลางในญี่ปุ่นถึงจุดอิ่มตัวและยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งลางร้ายนี้บ่งบอกออกมาตั้งแต่ซีวิครุ่นที่แล้ว เพราะฮอนด้าไม่นำรุ่น 3 ประตูเวอร์ชันปกติเข้ามาขายในญี่ปุ่นยกเว้นรุ่นไทป์ อาร์ และฐานการผลิตก็มีแห่งเดียวที่เมืองสวินดอน ประเทศอังกฤษ



ตรงนี้คือประเด็นหลักของการเปลี่ยนแปลงที่ถูกชูขึ้นมา

และทำให้สายพันธุ์ไทป์ อาร์ ที่แต่เดิมอิงอยู่กับตัวถัง 3 ประตูจำเป็นต้องปรับตัวตามสภาพของตลาด

แม้ว่าจะเป็นการยกเลิกเอกลักษณ์ดั้งเดิมก็ตาม โดยหันมาพัฒนาบนพื้นฐานของรุ่น 4 ประตูซึ่งเป็นตัวถังเดียวของซีวิคที่มีขายในญี่ปุ่น และข่าวนี้ก็เป็นจริงขึ้นมาในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

น่าเสียดายมากที่รายละเอียดของตัวรถถูกเปิดเผยออกมาน้อยมาก มีแค่มิติตัวถังซึ่งมีความยาว 4,540 มิลลิเมตร กว้าง 1,771 มิลลิเมตร สูง 1,425 มิลลิเมตร พร้อมกับชุดแต่งรอบคันที่เพิ่มความสปอร์ตเต็มพิกัด ล้อแม็กสีขาวพร้อมโลโก้ตัว H บนพื้นสีแดงตามสไตล์เวอร์ชันไทป์ อาร์ของฮอนด้า

ขณะที่เครื่องยนต์ ทางฮอนด้าเปิดเผยว่าเป็นบล็อก 4 สูบ 2,000 ซีซี i-VTEC ที่ไม่ระบุว่า เป็นรหัสอะไร แต่ถ้าจะให้คาดเดาก็น่าจะยังอิงอยู่บนพื้นฐานของบล็อก K20 เพียงแต่ คราวนี้ มีการพัฒนาและรีดกำลังออกมาได้มากถึง 220 แรงม้าส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะสู่ล้อหน้า ซึ่งเรียกว่าเป็นซีวิค ไทป์ อาร์ที่มีแรงม้าจากโรงงานมากที่สุดเท่าที่เคยผลิตกันมาเลยทีเดียว



มีการเปิดเผยว่าเหตุผลที่ ฮอนด้า ยกระดับความแรงของซีวิค ไทป์ อาร์ใหม่ให้สูงขึ้น

ก็เพราะต้องการกินรวบตลาดสปอร์ตคูเป้ขนาดกลาง ที่ในตอนนี้ทางฮอนด้าประกาศเลิกผลิตรุ่นอินเทกราไปแล้ว ด้วยเหตุผลข้างต้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเปิดตัวออกมาให้สัมผัสกันแล้ว แต่การทำตลาดจริงในญี่ปุ่นยังต้องรออีก พักใหญ่ เพราะทางฮอนด้าจะเริ่มส่งขายในช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า โดยที่ยังไม่มีการเปิดเผยราคาออกมา ในตอนนี้ ส่วนเมืองไทยคงต้องรอพึ่งจากผู้นำเข้ารายย่อยเหมือนเดิม



3 ประตูเพื่อคนยุโรป

นับจากซีวิค ไทป์ อาร์รุ่นที่แล้ว (EP3) ยุโรปทวีบทบาทในฐานะที่เป็นตลาดสำคัญของซีวิค ตัวถังแฮทช์แบ็กทั้งรุ่นปกติและตัวแรงในตระกูลไทป์ อาร์ ซึ่งสังเกตได้จากการที่ฮอนด้าเลือกเจนีวา มอเตอร์ โชว์ 2001 เป็นเวทีในการเปิดตัวครั้งแรกของรถยนต์รุ่นนี้ และในรุ่นใหม่นี้ก็เช่นเดียวกัน

ซีวิค ไทป์ อาร์ใหม่บนตัวถังแฮทช์แบ็ก 3 ประตู อาจจะเรียกว่าเป็น Euro Spec โดยเฉพาะก็คงไม่ผิด เพราะเป็นการผลิตและพัฒนาสำหรับตลาดกลุ่มนี้เพื่อแข่งขันกับพวก Hot Hatch สัญชาติยุโรป เช่น โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ จีทีไอ, โอเปิล แอสตรา โอพีซี, เปอโยต์ 307 เทอร์โบ, ฟอร์ด โฟกัส เอสที ฯลฯ



การพัฒนามีขึ้นบนพื้นฐานของตัวถังแฮทช์แบ็ก 3 ประตู

พร้อมเครื่องยนต์เป็น 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2,000 ซีซี i-VTEC 201 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที และเมื่อส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะผ่านล้อคู่หน้า มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 6.6 วินาที และความเร็วปลาย 235 กิโลเมตร/ชั่วโมง

เช่นเดียวกับไทป์ อาร์ของญี่ปุ่น กว่าแม้จะเปิดตัวในปีนี้ แต่กว่าจะเริ่มส่งมอบรถได้ต้องรอจนถึง เดือนมีนาคมปีหน้าเลยทีเดียว



Si เพื่อคนอเมริกัน

สำหรับคนอเมริกัน มีเวอร์ชันตัวแรงของซีวิคเอาไว้รองรับกับความต้องการมานานแล้ว กับรหัส Si ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1986 หรือเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งในซีวิครุ่นใหม่ รุ่น Si ก็ประเดิมตลาดพร้อมกัน แต่มีให้เลือกเฉพาะตัวถังคูเป้เท่านั้น ก่อนที่จะมาเพิ่มอีกทางเลือกด้วยตัวถังซีดาน 4 ประตูเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา



ทั้งรุ่นคูเป้และซีดานของ Si วางเครื่องยนต์รหัส K20Z3 บล็อก 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว i-VTEC 2,000 ซีซี 197 แรงม้า ที่ 7,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 19.2 กก.-ม. ที่ 6,100 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะสู่ล้อหน้า






ขอขอบคุณ :
ข้อมูลข่าวและภาพข่าวบางส่วนที่มีคุณภาพ
จากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
และภาพประกอบจากต่างประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น